กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรป (EU Digital Identity Wallet)
กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัยสำหรับพลเมืองและธุรกิจในยุโรปในการพิสูจน์ตัวตนของตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวดิจิทัล (digital ID) สำหรับการทำธุรกรรมทั้งในภาครัฐและเอกชน
ผู้ใช้สามารถจัดเก็บเอกสารดิจิทัลต่าง ๆ ไว้ในกระเป๋าสตางค์ ตั้งแต่ใบรับรองทางการศึกษาไปจนถึงบัตรโดยสารขนส่ง และใช้สำหรับการเข้าสู่ระบบแพลตฟอร์มส่วนตัว เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ วิธีนี้มีความปลอดภัยและใช้งานได้ง่ายกว่าการจัดการรหัสผ่านจำนวนมาก
ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ผู้ใช้สามารถส่งข้อมูลเฉพาะไปยังหน่วยงานที่ผ่านการรับรองได้อย่างมั่นใจ โดยเปิดเผยเฉพาะรายละเอียดที่จำเป็น เช่น อายุหรือสัญชาติ ในขณะที่ปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการทำโปรไฟล์ส่วนบุคคล (personal profiling) และให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล อันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ด้วยเอกสารที่จับต้องได้
กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปจะอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในประเทศสหภาพยุโรปของแต่ละบุคคล และข้ามไปยังประเทศสมาชิกอื่น ๆ
ในปี พ.ศ. 2566 สหภาพยุโรปได้เริ่มโครงการนำร่อง 4 โครงการหลักเพื่อประเมินกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปก่อนที่จะนำมาใช้อย่างเป็นทางการในประเทศสมาชิก
โครงการนำร่องขนาดใหญ่ 4 โครงการกำลังรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรป และช่วยพัฒนาชุดเครื่องมือร่วม (Common Toolbox) และทำให้มั่นใจในการใช้งานที่ปลอดภัย
ต้นแบบกระเป๋าสตางค์ (Wallet Prototype)
คณะกรรมาธิการจะจัดเตรียมต้นแบบของกระเป๋าสตางค์เอกลักษณ์ดิจิทัลของสหภาพยุโรป (EU Digital Identity Wallet - EUDI) ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของระเบียบว่าด้วยเอกลักษณ์ดิจิทัลของยุโรป (European Digital Identity Regulation)
ต้นแบบนี้ได้รับการจัดหาภายใต้โครงการ Digital Europe โดยรวมถึงไลบรารีโค้ดและตัวอย่างแอปพลิเคชัน องค์ประกอบทั้งหมดนี้ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ทดสอบ ช่วยให้สามารถพัฒนาปรับปรุงและตรวจสอบความถูกต้องของข้อกำหนดที่ระบุไว้ในสถาปัตยกรรมและกรอบอ้างอิง (Architecture and Reference Framework)
การทดลองขนาดใหญ่ครอบคลุมหลายภาคส่วน รวมถึง บริการทางการเงิน การศึกษา และการขนส่ง ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการทำงานและการใช้งานของกระเป๋าสตางค์ในโลกแห่งความเป็นจริง การที่กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปมีลักษณะแบบโอเพนซอร์สจะทำให้มั่นใจได้ว่าทรัพยากรที่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดจะสามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ ทำให้ประเทศสมาชิกและผู้ที่สนใจสามารถพัฒนากระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของตนเองได้
เวอร์ชันแรกของการอ้างอิงการนำไปใช้งานมีให้บริการใน Github พร้อมกับสถาปัตยกรรมและกรอบอ้างอิง
โครงการนำร่องขนาดใหญ่ (Large Scale Pilots)
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 มีการเปิดตัวโครงการนำร่องขนาดใหญ่สี่โครงการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปและทำให้มั่นใจว่าการนำไปใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่น
โครงการนำร่องเหล่านี้มีหน่วยงานประมาณ 360 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงบริษัทเอกชนและหน่วยงานภาครัฐในประเทศสมาชิก 26 ประเทศ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และยูเครน แต่ละโครงการนำร่องจัดแบ่งเป็นกลุ่มที่รวบรวมความเชี่ยวชาญทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนในสหภาพยุโรป โดยได้รับการสนับสนุนร่วมจากเงินทุนของคณะกรรมาธิการยุโรป โครงการนำร่องเหล่านี้ได้รับการชี้นำตามข้อกำหนดทางเทคนิคที่พัฒนาโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ eIDAS (eIDAS Expert Group) โดยโครงการนำร่องเหล่านี้มีกำหนดที่จะดำเนินการต่อไปจนถึงปี พ.ศ. 2568
โครงการนำร่องกำลังทดสอบกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปอย่างเข้มงวดในสถานการณ์ทั่วไปที่ชาวยุโรปพบในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับข้อกำหนดอ้างอิงสำหรับการใช้งานกระเป๋าสตางค์ด้วย ข้อมูลเชิงลึกจากการทดสอบเหล่านี้จะถูกเผยแพร่เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ความสามารถในการทำงานร่วมกัน และการออกแบบโดยรวมของกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรป
โครงการนำร่องขนาดใหญ่ทั้งสี่โครงการได้แก่:
EU Digital Identity Wallet Consortium (EWC) เป็นความร่วมมือเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อเสนอเกี่ยวกับเอกลักษณ์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปในรูปแบบของข้อมูลรับรองการท่องเที่ยวดิจิทัล (Digital Travel Credentials) ในประเทศสมาชิก EWC มีเป้าหมายที่จะต่อยอดจากแอปพลิเคชันกระเป๋าสตางค์ต้นแบบเพื่อให้รองรับการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลรับรองการท่องเที่ยวดิจิทัล
POTENTIAL มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมนวัตกรรม ความร่วมมือ และการเติบโตใน 6 ภาคส่วนของเอกลักษณ์ดิจิทัล ได้แก่ บริการภาครัฐ ธนาคาร โทรคมนาคม ใบอนุญาตขับขี่มือถือ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสุขภาพ
NOBID เป็นกลุ่มของประเทศนอร์ดิกและบอลติก ซึ่งร่วมกับอิตาลีและเยอรมนีจะทดลองใช้กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปเพื่อตรวจสอบการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ
DC4EU ให้การสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมแก่ภาครัฐและเอกชนในภาคการศึกษาและความมั่นคงทางสังคม โดยการใช้งานและเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานบริการดิจิทัลชั้นนำระดับยุโรปเพื่อการทำงานร่วมกันและการบูรณาการเข้ากับกรอบความไว้วางใจข้ามพรมแดน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการนำร่องกำลังสำรวจศักยภาพของกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลในการให้ทางออกใน 11 ด้านดังต่อไปนี้:
การเข้าถึงบริการภาครัฐ: การเข้าถึงบริการภาครัฐดิจิทัลอย่างปลอดภัย เช่น การยื่นคำขอหนังสือเดินทางหรือใบอนุญาตขับขี่ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี หรือการเข้าถึงข้อมูลประกันสังคม
การเปิดบัญชีธนาคาร: การตรวจสอบเอกลักษณ์ของผู้ใช้เมื่อเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ ซึ่งจะช่วยขจัดความจำเป็นที่ผู้ใช้ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลซ้ำหลายครั้ง
การลงทะเบียนซิมการ์ด: การยืนยันเอกลักษณ์สำหรับวัตถุประสงค์ของสัญญาซิมการ์ดแบบเติมเงินล่วงหน้าและหลังการชำระเงิน (การลงทะเบียนและการเปิดใช้งาน) ซึ่งจะช่วยลดการฉ้อโกงและค่าใช้จ่ายให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ
ใบอนุญาตขับขี่มือถือ: การจัดเก็บและแสดงใบอนุญาตขับขี่บนมือถือทั้งในการติดต่อแบบออนไลน์และแบบกายภาพ เช่น ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตของตนเองข้างถนน
การลงนามในสัญญา: การสร้างลายมือชื่อดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับการลงนามในสัญญาออนไลน์ ซึ่งจะช่วยขจัดความจำเป็นในการใช้เอกสารกระดาษและลายมือชื่อทางกายภาพ
การรับใบสั่งยา: การให้รายละเอียดใบสั่งยาแก่ร้านขายยาและเริ่มกระบวนการจ่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์
การเดินทาง: การแสดงข้อมูลจากเอกสารการเดินทาง (เช่น หนังสือเดินทาง วีซ่า) ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้นเมื่อผ่านจุดตรวจความปลอดภัยและศุลกากรที่สนามบิน
เอกลักษณ์ดิจิทัลขององค์กร: การพิสูจน์ว่าท่านเป็นตัวแทนที่ถูกต้องขององค์กร
การชำระเงิน: การตรวจสอบเอกลักษณ์ของผู้ใช้เมื่อเริ่มต้นการชำระเงินออนไลน์
การรับรองการศึกษา: การแสดงหลักฐานการครอบครองใบรับรองทางการศึกษา เช่น ประกาศนียบัตร ปริญญา และใบรับรอง ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการสมัครงานหรือการศึกษาต่อ
การเข้าถึงสิทธิประโยชน์ด้านประกันสังคม: กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปสามารถใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูลและสิทธิประโยชน์ด้านประกันสังคมของผู้ใช้อย่างปลอดภัย (เช่น การเกษียณอายุ ผลประโยชน์ทุพพลภาพ) และสามารถใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีโดยการจัดเก็บเอกสาร เช่น บัตรประกันสุขภาพยุโรป
โดยสรุป กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปถือเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการพิสูจน์เอกลักษณ์ของพลเมืองและธุรกิจในยุโรป โครงการนำร่องขนาดใหญ่ที่กำลังดำเนินการอยู่จะช่วยประเมินและพัฒนากระเป๋าสตางค์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนที่จะนำมาใช้งานจริงในประเทศสมาชิกต่อไปในอนาคต การเปิดเผยซอร์สโค้ดแบบโอเพนซอร์สจะช่วยให้ประเทศสมาชิกและผู้ที่สนใจสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ สุดท้ายนี้ กระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของสหภาพยุโรปจะเป็นก้าวสำคัญในการปฏิวัติวิธีที่ชาวยุโรปโต้ตอบกับภาครัฐและภาคเอกชน โดยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการพิสูจน์เอกลักษณ์ของตนเอง
📱 โทร: 093-789-4544
💬 Inbox: m.me/AlphaSecTH
📧 อีเมล: contact@alphasec.co.th
🔗 เว็บไซต์: https://www.alphasec.co.th
📲 ไลน์: https://line.me/ti/p/%40347dhwii
Comentarios