top of page

AI กับโลกการทำงาน: ความสัมพันธ์หลากมิติ



หลายคนกังวลว่า AI จะเข้ามาแย่งงานของมนุษย์ อย่างเช่นรายงานล่าสุดจากสถาบันการเงิน Goldman Sachs เสนอว่า AI อาจจะเข้ามาแทนที่งานประจำได้ถึง 300 ล้านตำแหน่ง

แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าความสัมพันธ์ระหว่าง AI และการจ้างงานนั้นมีความซับซ้อนอย่างมาก ตัวอย่างเช่น:

  • AI ไม่ได้แค่แย่งงาน แต่ยังสามารถเสริมสร้าง หรือทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ด้วย

  • งานวิจัยของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า พนักงานบริการลูกค้าที่ใช้เครื่องมือ AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพงานได้ถึง 14%

  • เราจำเป็นต้องมีการพัฒนาทักษะของแรงงาน การสร้างระบบรองรับทางสังคม และการปกป้องสิทธิของคนทำงานให้เหมาะสม

งานบางประเภทมีความเสี่ยงถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติมากกว่างานอื่นๆ ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรม:

  • งานที่ทำซ้ำๆ และใช้แรงงานเป็นหลักมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะหลายๆอย่างถูกแทนที่ได้ง่ายด้วย AI

  • การเงิน ธนาคาร สื่อ การตลาด และกฎหมาย เป็นสาขาที่ได้รับผลกระทบสูงที่สุดจาก AI ตามการวิเคราะห์ของ Forbes

  • ในทางกลับกัน งานที่ต้องความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ปัญหาอย่างลึกซึ้ง และความฉลาดทางอารมณ์ ยังยากที่จะถูกแทนที่

เตรียมตัวให้พร้อมกับโลกการทำงานที่เปลี่ยนไป

เราต้องยกระดับทักษะของตัวเองเพื่อรับมือกับการเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นของ AI ความสามารถในการวางกลยุทธ์และใช้ AI ให้มีประสิทธิภาพจะเป็นทักษะสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น

  • นักการตลาดที่พัฒนาทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล จะสามารถประสานงานและทำงานกับทีม data science ได้ดียิ่งขึ้น

  • ผู้จัดการโครงการที่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ด ก็สื่อสารกับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ได้เข้าใจมากขึ้น

  • นักออกแบบที่เชี่ยวชาญ user experience สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและใช้งานได้สะดวก นำไปสู่การตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่าเดิม

AI อาจจะทำข้อมูลเชิงปริมาณและงานที่ทำซ้ำๆ ได้เก่ง แต่มนุษย์ยังคงเหนือกว่าในเรื่องการแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และความฉลาดทางอารมณ์ อย่าหยุดพัฒนาตัวเองเพื่อให้ทันโลกการทำงานที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

ดู 7 ครั้ง
bottom of page