ในยุคดิจิทัล ข้อมูลกลายเป็นทรัพย์สินที่มีค่าสำหรับองค์กรต่างๆ องค์กรที่มีข้อมูลที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน
DPO หรือ Data Protection Officer คือ ผู้พิทักษ์ข้อมูลส่วนบุคคล ทำหน้าที่ดูแล รักษา คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กร DPO เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ถูกละเมิด
บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ DPO ให้มากขึ้น
DPO คืออะไร?
DPO คือบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับดูแล ควบคุม และตรวจสอบการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กร DPO จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย PDPA กระบวนการประมวลผลข้อมูล และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
หน้าที่ความรับผิดชอบของ DPO
ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมาย PDPA และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับกฎหมาย PDPA และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
ตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
จัดทำและดูแลรักษาเอกสารเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
แจ้งเตือนและรายงานการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ดูแลรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
คุณสมบัติของ DPO
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย PDPA และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการประมวลผลข้อมูล และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง มีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถสื่อสารได้ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีทักษะการวิเคราะห์ สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงและหาแนวทางแก้ไข มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ และน่าเชื่อถือ
องค์กรจำเป็นต้องมี DPO หรือไม่?
กฎหมาย PDPA กำหนดให้ องค์กรที่มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ต้องมี DPO องค์กรที่มีขนาดใหญ่ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมาก หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องมี DPO
แนวทางการแต่งตั้ง DPO
องค์กรสามารถแต่งตั้ง DPO จากบุคคลภายในองค์กรหรือบุคคลภายนอก
DPO ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งงานประจำ สามารถทำงาน Part-time ได้
DPO ต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับองค์กร
องค์กรต้องแจ้งการแต่งตั้ง DPO ต่อหน่วยงานกำกับดูแล
DPO มีบทบาทสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน องค์กรที่มี DPO จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พันธมิตร และผู้มีส่วนได้เสีย ว่าองค์กรมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เข้มงวด และปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA อย่างเคร่งครัด
ประโยชน์ของการมี DPO
ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA
ช่วยลดความเสี่ยงในการถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พันธมิตร และผู้มีส่วนได้เสีย
ช่วยให้องค์กรมีภาพลักษณ์ที่ดี
ช่วยให้องค์กรสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทสรุป
DPO เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลขององค์กร องค์กรที่มี DPO จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า พันธมิตร และผู้มีส่วนได้เสีย ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาจะได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัย
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาวิธีที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พันธมิตร และผู้มีส่วนได้เสีย การแต่งตั้ง DPO เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรพิจารณา
แหล่งข้อมูล
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/069/T_0052.PDF
คู่มือการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) https://oldweb.ditp.go.th/download/Policy/pdpa_staff.pdf
บริการ Outsourced DPO ของอัลฟ่าเซค โดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการเป็น DPO ระดับสากล โดยผ่านการอบรมความรู้ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั้งจากในประเทศและต่างประเทศและได้รับวุฒิบัตร CIPP/E, CIPM, CIPT, CEPAS DPO, CISSP, CISA, CISM เป็นต้น และมีประสบการณ์เป็น DPO ให้กับองค์กรหลายองค์กร https://www.alphasec.co.th/outsourced-dpo
Comments