top of page

TISAX : ปัจจัยสำคัญสู่ความมั่นคงปลอดภัยในอุตสาหกรรม Automotive

  • รูปภาพนักเขียน: Kasidet Khongphuttikun
    Kasidet Khongphuttikun
  • 11 พ.ย.
  • ยาว 2 นาที
ree

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว องค์กรต่างๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม Automotive ต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารจัดการโครงสร้างองค์กรที่ซับซ้อน การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล และการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น TISAX (Trusted Information Security Assessment Exchange) เครื่องมือ Enterprise Architecture (EA) จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนกลยุทธ์ จัดการความเสี่ยง และเสริมสร้าง cybersecurity ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


TISAX: มาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรม Automotive

ความสำคัญของ TISAX ในอุตสาหกรรมยานยนต์

TISAX เป็นมาตรฐานการประเมินความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศที่พัฒนาโดย German Association of the Automotive Industry (VDA) เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของอุตสาหกรรม Automotive ในยุคที่ยานยนต์กลายเป็น "คอมพิวเตอร์บนล้อ" การปกป้องข้อมูลการออกแบบ เทคโนโลยี และข้อมูลลูกค้าจึงมีความสำคัญสูงสุด

ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำอย่าง Mercedes-Benz, BMW, Volkswagen, Audi และ Porsche ต่างกำหนดให้ซัพพลายเออร์ทั้งหมดต้องได้รับการรับรอง TISAX ก่อนที่จะเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทาน ทำให้มาตรฐานนี้กลายเป็นพาสปอร์ตสำหรับการเข้าสู่ตลาดยานยนต์ระดับโลก


ความสำคัญของเครื่องมือ Enterprise Architecture

ตามรายงาน Critical Capabilities for Enterprise Architecture Tools ประจำปี 2025 จาก Gartner พบว่าความสนใจในเครื่องมือ EA เพิ่มขึ้นถึง 14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจ เทคโนโลยี และกระบวนการทำงาน พร้อมทั้งวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบต่างๆ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

สำหรับอุตสาหกรรม Automotive ที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนและต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน TISAX อย่างเคร่งครัด เครื่องมือ EA ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการข้อมูลสำคัญ ติดตามการเปลี่ยนแปลงของระบบ และประเมินความเสี่ยงด้าน cybersecurity ได้อย่างเป็นระบบ


ความท้าทายหลักที่องค์กรต้องเผชิญ

การนำเครื่องมือ EA มาใช้งานไม่ได้ปราศจากอุปสรรค รายงานจาก Gartner ชี้ให้เห็นความท้าทายสำคัญ 3 ประการ:

1. การแสดงมูลค่าทางธุรกิจที่จับต้องได้

องค์กรหลายแห่งประสบปัญหาในการสื่อสารมูลค่าของเครื่องมือ EA ต่อผู้บริหารระดับสูงและผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่ได้มาจากสายงานเทคโนโลยี ทำให้การนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายเป็นไปได้ยาก

2. คุณภาพข้อมูลและการบำรุงรักษา

การรักษาคุณภาพข้อมูลใน EA repository เป็นงานที่ท้าทาย เนื่องจากต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย การป้อนข้อมูลด้วยตนเอง และทรัพยากรที่จำกัด ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดและข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกัน

3. ความซับซ้อนและการใช้งาน AI

เครื่องมือ EA มักถูกมองว่าซับซ้อน ยากต่อการใช้งาน และขาดความสามารถด้าน AI ที่แข็งแกร่งพอที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสถาปนิกองค์กรได้อย่างมีนัยสำคัญ


คุณสมบัติสำคัญของเครื่องมือ EA ที่ดี

เครื่องมือ EA ที่มีประสิทธิภาพควรมีความสามารถหลัก 13 ประการ ได้แก่:

  1. Repository - ฐานข้อมูลส่วนกลางสำหรับจัดเก็บและจัดการข้อมูลองค์กร

  2. Modeling - การสร้างแบบจำลองความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ

  3. Analysis - การวิเคราะห์ช่องว่าง โอกาส และความเสี่ยง

  4. Presentation - การแสดงผลข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

  5. Configuration and Management - การตั้งค่าและจัดการระบบ

  6. Publication - การเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้มีส่วนได้เสีย

  7. Frameworks - การสนับสนุนกรอบการทำงานมาตรฐาน

  8. Extensibility - ความสามารถในการขยายระบบ

  9. Integration - การเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ

  10. Intelligent Automation - การใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

  11. Innovation and Sustainability Management - การจัดการนวัตกรรมและความยั่งยืน

  12. Augmented Architecture Development - การพัฒนาสถาปัตยกรรมด้วย AI

  13. AI Assistant - ผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับตอบคำถามและช่วยงาน


TISAX และความมั่นคงปลอดภัยในอุตสาหกรรม Automotive

สำหรับอุตสาหกรรม Automotive มาตรฐาน TISAX เป็นข้อกำหนดที่สำคัญสำหรับการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เครื่องมือ EA ที่ดีควรสนับสนุนการปฏิบัติตามมาตรฐานนี้ผ่าน:

  • การจัดการความเสี่ยงด้าน Cybersecurity - ระบุและประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเป็นระบบ

  • การติดตามการปฏิบัติตามมาตรฐาน - ตรวจสอบและรายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนด TISAX

  • การจัดการห่วงโซ่อุปทาน - ควบคุมและตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของซัพพลายเออร์


ALPHASEC: พันธมิตรด้านความมั่นคงปลอดภัยและการปฏิบัติตามมาตรฐาน

ALPHASEC เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน cybersecurity และการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล พร้อมให้บริการครบวงจรสำหรับอุตสาหกรรม Automotive และองค์กรที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัย:

บริการของ ALPHASEC

1. TISAX Assessment และ Consulting

  • ให้คำปรึกษาและประเมินความพร้อมตามมาตรฐาน TISAX

  • วางแผนและดำเนินการเพื่อผ่านการตรวจประเมิน TISAX

  • ติดตามและปรับปรุงการปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง

2. Cybersecurity Solutions

  • ประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

  • ออกแบบและติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย

  • บริการ Security Operations Center (SOC)

  • การตอบสนองต่อเหตุการณ์ความมั่นคงปลอดภัย

3. Compliance Management

  • ให้คำปรึกษาการปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 27001, ISO27701

  • จัดทำเอกสารและนโยบายด้านความมั่นคงปลอดภัย

  • ตรวจสอบและประเมินระบบอย่างสม่ำเสมอ

4. Training และ Awareness

  • อบรมเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับ cybersecurity

  • สร้างจิตสำนึกด้านความมั่นคงปลอดภัยในองค์กร


สรุป

อุตสาหกรรม Automotive สามารถบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง เสริมสร้าง cybersecurity และปฏิบัติตามมาตรฐาน TISAX ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมและมีพันธมิตรที่เชี่ยวชาญอย่าง ALPHASEC จะช่วยให้องค์กรสามารถเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย


หากองค์กรของคุณกำลังมองหาโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัย การปฏิบัติตามมาตรฐาน TISAX ติดต่อ ALPHASEC วันนี้เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและยกระดับความมั่นคงปลอดภัยขององค์กรคุณ

โทร ซ

 
 
bottom of page